วิธีเปลี่ยนการตั้งค่า Cache สำหรับแต่ละนามสกุลไฟล์ใน CloudFront

วิธีเปลี่ยนการตั้งค่า Cache สำหรับแต่ละนามสกุลไฟล์ใน CloudFront

การตั้งค่า Cache policy ใน CloudFront สามารถตั้งค่าให้เหมาะสมกับการใช้งานได้ เช่นถ้าเป็นไฟล์เว็บไซต์แบบ Dynamic ก็จะตั้งค่าเป็น CachingDisabled แต่ถ้าเป็นไฟล์เว็บไซต์ที่ไม่มีการเปลี่ยนข้อมูลการแสดงผลจะใช้เป็น CachingOptimized ซึ่งการตั้งค่า Cache policy ที่มีความเหมาะสมจะช่วยให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพมากขึ้น
Clock Icon2021.11.05

この記事は公開されてから1年以上経過しています。情報が古い可能性がありますので、ご注意ください。

Amazon CloudFront

Amazon CloudFront เป็น Web Cache Server ใช้แคชข้อมูลในการแสดงผล ทำให้สามารถเพิ่มความเร็วของการแสดงผลด้วยการแสดงเนื้อหาที่แคชบันทึกไว้จนกว่าแคชจะหมดอายุ ซึ่ง CloudFront จะบันทึกข้อมูลลงแคชไฟล์ โดยแคชไฟล์จะถูกเก็บอยู่ใน Edge location ต่างๆ ทั่วโลก เมื่อมีการเรียกใช้งานเว็บไซต์ ระบบจะดึงแคชไฟล์จาก Edge location ที่ใกล้ที่สุดมาแสดงผล

โดยมีการแสดงผลข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้กับผู้ใช้งานมากที่สุดเพื่อความรวดเร็วไม่ว่าเราจะอยู่ส่วนใดของโลกก็ตาม
EC2-CloudFront-Global

สิ่งที่ต้องมี

เมื่อมี Web Server ใน EC2 แล้ว ให้ทำการเชื่อมต่อกับ CloudFront ตามลิงก์ด้านล่างนี้

เมื่อทำตามขั้นตอนข้างต้นทั้งหมดนี้เรียบร้อยแล้ว สามารถเริ่มทำการเปลี่ยนการตั้งค่า Cache ในหัวข้อถัดไปได้เลย

วิธีเปลี่ยนการตั้งค่า Cache

เราจะมาเปลี่ยนการตั้งค่า Cache policy ดังนี้
CachingOptimized = เปิดการใช้งาน Cache
CachingDisabled = ปิดการใช้งาน Cache

ตรวจสอบสถานะ x-cache

อันดับแรกให้เปิดหน้าเว็บเบราว์เซอร์โดยใช้ Domain name ของ CloudFront เช่นd3**********ig.cloudfront.netจากนั้นกดปุ่มF12

ถ้าต้องการให้มาอยู่ด้านล่าง ให้ทำตามนี้
» เลือก
» เลือกแนวล่าง
on-off-cache-8

» เลือกNetwork
» Reload
» เลือกไฟล์รูปภาพ png ของเราเอง
» เลือกHeaders
» เลื่อนลงมาด้านล่าง มาที่หัวข้อResponse Headersจะเห็นว่าx-cacheมีสถานะเป็นMiss from cloudfront

http://d3**********ig.cloudfront.net/

on-off-cache-1-url-1

เปลี่ยนการตั้งค่า Cache

ขั้นตอนนี้เราจะมาทำการเปิดการใช้งาน Cache ใน Behaviors ของ CloudFront

ไปที่ช่องค้นหา พิมพ์คำว่า?︎ CloudFront» เลือกCloudFront
S-CF-1

คลิกDistributionsของเรา S-CF-2

เลือกBehaviors» คลิกCreate behavior
on-off-cache-2

ในส่วนของ Create behavior ให้ตั้งค่าตามนี้
» Path pattern:/images/*(ทุกไฟล์ที่อยู่ในโฟลเดอร์ images จะเป็นCachingOptimizedทั้งหมด)
» เลือก Origin and origin groups:Public IPv4 DNSที่ตรงกับ Instance ของเรา
» เลือก Viewer protocol policy: ⦿Redirect HTTP to HTTPS
» เลือก Allowed HTTP methods: ⦿GET, HEAD, OPTIONS(ในกรณีที่ใช้ JavaScript ปัญหาอาจเกิดขึ้นในกรณีที่การตั้งค่าเป็นGET, HEADดังนั้นจึงต้องเปลี่ยนเป็นGET, HEAD, OPTIONS)
» คลิก Checkbox✅ OPTIONS
on-off-cache-3-2-fix-2

ในส่วนของ Cache key and origin requests ให้ตั้งค่าตามนี้
» เลือก Cache policy:CachingOptimized ▼(เปิดการใช้งาน Cache)
» เลือก Origin request policy - optional:AllViewer ▼
on-off-cache-4-fix

คลิกCreate behavior
on-off-cache-5

จะได้ Path pattern ที่เราสร้างขึ้น

Path pattern
/images/*     ไฟล์ทั้งหมดในโฟลเดอร์ images จะเป็น CachingOptimized
*.ico     ไฟล์ .ico ทั้งหมดในโฟลเดอร์หลัก จะเป็น CachingOptimized
Default (*)     ไฟล์ทั้งหมดในโฟลเดอร์หลัก ที่ไม่ได้ทำการตั้งค่า Path pattern ไว้ จะเป็น CachingDisabled ตามที่ได้สร้าง CloudFront ไว้ตอนแรก

on-off-cache-6

» Reload อีกครั้ง
» เลือกไฟล์รูปภาพ png จะเห็นว่าx-cacheจะเป็นHit from cloudfront

http://d3**********ig.cloudfront.net/

on-off-cache-7-url-1
เพียงเท่านี้ก็สามารถเปลี่ยนการตั้งค่า Cache ได้ตามต้องการแล้ว

สรุป

การเปลี่ยน Cache policy จำเป็นต้องเลือกการใช้งานให้เหมาะสม เช่น ถ้าเป็นไฟล์ .php ที่มีการแสดงผลแบบเปลี่ยนแปลงข้อมูลตลอดเวลา หรือที่เรียกว่า Dynamic เราจะใช้ Cache policy เป็นCachingDisabledซึ่งการแสดงผลจะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับการใช้งานจากสถานที่ต่างๆ เพราะการแสดงผลแบบ Dynamic จะมีการรับส่งข้อมูลไป/กลับอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้การแสดงผลไม่เร็วเท่าการใช้ CachingOptimized

ส่วนไฟล์ที่เป็น image หรืออื่นๆ เช่น .png .css .js จะเป็นไฟล์ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในการแสดงผล เราจะใช้ Cache policy เป็นCachingOptimizedเพื่อให้แคชไฟล์ถูกเก็บไว้ใน Edge location ต่างๆ ทั่วโลก แล้วเวลาเรียกใช้งานเว็บไซต์ ระบบจะดึงแคชไฟล์จาก Edge location ที่ใกล้ที่สุดมาแสดงผล จึงทำให้ระบบมีความเร็วในการแสดงผลมากขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

この記事をシェアする

facebook logohatena logotwitter logo

© Classmethod, Inc. All rights reserved.